อสังหาริมทรัพย์ รับจำนองขายฝาก บริการรับจำนอง เป็นประกัน

อสังหาริมทรัพย์ รับจำนองขายฝาก บริการรับจำนอง การจำนอง จำนองก็เป็นหลักประกันหนี้สินอีกประการหนึ่ง จำนองคือการใครคนหนึ่งเรียกว่า ผู้จำนองเอาอสังหาริมทรัพย์ อันตัวอย่างเช่น ที่ดิน บ้านที่พักฯลฯ ไปยี่ห้อไว้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า ผู้รับจำนองหรือนัยหนึ่งผู้จำนองเอาทรัพย์สินไปทำหนังสือจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นประกันการจ่ายชำระหนี้ของลูกหนี้ โดยไม่ต้องมอบสมบัติพัสถานที่จำนองให้เจ้าหนี้ผู้จำนองบางทีอาจเป็นตัวลูกหนี้เอง หรือจะเป็นบุคคลภายนอกก็ได้ เช่น นายดำ กู้เงินนายแดง 100,000 บาท เอาที่ดินของตัวเองจำนำหรือนายเหลืองซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเอาที่ดินจำนำจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดินเป็นประกันหนี้นายดำ ก็ทำได้อย่างเดียวกันเมื่อจำนำแล้วถ้าเกิดลูกหนี้ไม่ใช้หนี้เจ้าหนี้ก็มีอำนาจยึดทรัพย์ที่จำนองออกขายขายทอดตลาดเอาเงินจ่ายหนี้ได้รวมทั้งมีสิทธิพิเศษได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้ปกติทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ รับจำนองขายฝาก บริการรับจำนอง กู้ยืมแล้วมอบโฉนด หรือ น.ส. 3 ให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้มิใช่จำนำเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิพิเศษเป็นเพียงแต่เจ้าหนี้ธรรมดา แต่ว่ามีสิทธิยึดโฉนดหรือ น.ส. 3 ไว้ตามข้อตกลงตราบจนกระทั่งลูกหนี้จะจ่ายหนี้ฉะนั้นถ้าเกิดจะทำจำนองก็ต้องลงบัญชีให้ถูกต้อง เงินทองที่จำนำ :เงินที่จำนำได้ คือ อสังหาริมทรัพย์ อันคือ ทรัพย์ที่ไม่อาจจะเขยื้อนได้ เช่น ที่ดิน บ้านเรือน เรือกสวนไร่เป็นต้น นอกจากนี้สังหาริมทรัพย์ คือทรัพย์สินที่เขยื้อนได้บางสิ่งบางอย่าง เช่นเรือกำปั่น เรือกลไฟ แพ ที่อยู่ที่อาศัย รวมทั้งสัตว์ยานพาหนะ ถ้าหากได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้วหลังจากนั้นก็บางทีอาจนำจำนำได้ดุจกันเมื่อผู้ครอบครองทรัพย์สินนำไปจำนำไม่มีความจำเป็นต้องมอบทรัพย์ที่จำนองให้แก่เจ้าหนี้เจ้าของยังครอบครองใช้ประโยชน์เป็นต้นว่า อาศัยในบ้าน หรือทำสวนทำไร่หาผลประโยชน์ได้ต่อไปยิ่งไปกว่านั้นบางทีก็อาจจะโอนขายหรือนำไปจำนองเป็นประกันหนี้สินรายอื่นถัดไป ก็ย่อมทำเป็นส่วนเจ้าหนี้นั้นการที่ลูกหนี้นำสมบัติพัสถานไปขึ้นทะเบียนจำนองก็ถือได้ว่าเป็นประกันหนี้สินได้อย่างแน่วแน่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาทรัพย์สินนั้นมาครองเอง ผู้จำนองต้องระมัดระวัง :ผู้มีสิทธิจำนองได้คือเจ้าของหรือผู้มีสิทธิในสินทรัพย์ ถ้าหากเจ้าของจำนำทรัพย์สินด้วยตัวเองก็ไม่มีปัญหาแม้กระนั้นหากมอบให้บุคคลอื่นไปกระทำการจำนองแทน บางครั้งก็บางทีอาจกำเนิดปัญหาได้ข้อควรระมัดระวัง คือ ควรเขียนใบมอบฉันทะหรือใบมอบอำนาจให้กระจ่างว่า ให้กระทำการจำนองไม่ควรเซ็นแม้กระนั้นชื่อแล้วปลดปล่อยค้างไว้อันบุคคลอื่นนั้นอาจกรอกเนื้อความเอาเองแล้วค่อยนำไปทำประการอื่นอันไม่ตรงตามความต้องการของเราอาทิเช่น บางทีอาจเสริมเติมใจความว่ามอบสิทธิ์ให้โอนขายแล้วขายเอาเงินใช้ประโยชน์ส่วนตัวเสีย เป็นต้น พวกเราผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติผู้มอบฉันทะบางทีอาจจะ อสังหาริมทรัพย์ รับจำนองขายฝาก บริการรับจำนอง จำต้องถูกผูกพันตามสัญญาซื้อขายนั้นด้วยเหตุว่าประมาทสะเพร่าอยู่ด้วย ผู้รับจำนำต้องระวัง :ผู้รับจำนำทรัพย์สินก็ต้องระวังด้วยเหมือนกันควรจะติดต่อกับผู้ครอบครองสินทรัพย์หรือเจ้าของที่โดยตรงและควรตรวจทานที่ดินเงินทองที่จำนำว่ามีอยู่จริงตรงกับโฉนดเคยปรากฏว่ามีผู้นำโฉนดที่ดินไปประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยแต่ว่าที่ดินตามโฉนดนั้นกลับกลายถนนเหลือจากการจัดสรรหรือที่ดินตามโฉนดนั้นพังลงน้ำไปหมดแล้ว ดังนั้นผู้รับจำนำก็เลยไม่ควรรับจำนำหรือติดต่อลงนามกับคนอื่นหรือคนที่กล่าวถึงว่าเป็นตัวแทน เพราะถ้าเกิดปรากฏในคราวหลังว่าบุคคลนั้นทำใบมอบฉันทะหรือใบมอบอำนาจเลียนแบบขึ้นแล้วนำที่ดินอื่นมาจำนองหากแม้เราผู้รับจำนองจะมีความสุจริตอย่างไรเจ้าของอันตามที่เป็นจริงก็มีสิทธิติดตามเอาคืนที่ดินของเขาได้โดยไม่ต้องไถ่คืน ผู้รับโอนแล้วก็ผู้รับจำนองซ้อนก็ต้องระมัดระวัง :สินทรัพย์ที่จำนองนั้นเจ้าของจะนำไปจำนองซ้ำหรือโอนขายต่อไปก็ย่อมทำเป็นผู้รับจำนำคนข้างหลังจำเป็นต้องพิเคราะห์ว่าทรัพย์นั้นเมื่อขายทอดตลาดจะมีเงินเหลือเพียงพอชำระหนี้ของตนเองหรือไม่เนื่องจากว่าเจ้าหนี้คนแรกมีสิทธิได้รับการใช้หนี้ก่อนคนหลังมีสิทธิแต่เพียงได้ใช้หนี้เฉพาะส่วนที่เหลือคนรับโอนหรือผู้ซื้อสินทรัพย์ที่จำนองก็ต้องระวังเช่นกันเพราะว่ารับโอนทรัพย์สินโดยมีภาระจำนำก็จำเป็นต้องไถ่ถอนจำนองโดยจ่ายและชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้มิฉะนั้น เจ้าหนี้ก็มีสิทธิที่จะบังคับจำนำยึดทรัพย์สินเอาที่ดินออกขายทอดตลาดซึ่งถ้าหากคนรับโอนสู้ราคาไม่ได้ ทรัพย์สมบัติหลุดมือไปเป็นของคนอื่นๆ ด้วยเหตุนั้นที่ซื้อมา

ค่าจำท่วมเป็นอย่างไร
Firm–ตรวจทานบ้าน–เดือนพฤศจิกายน 13, 2019ค่าจำนองคืออะไรค่าจำท่วม คือ ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กรมที่ดิน กรณีที่มีการจำนำอสังหาริมทรัพย์ โดยยังไม่มีความเคลื่อนไหวชื่อผู้ครอบครองของอสังหาริมทรัพย์นั้น โดยค่าธรรมเนียมนี้คิดร้อยละ 1 จากราคาที่จำนำ หรือราคาประเมิน(ก็คือในเรื่องที่กู้สถาบันการเงินเพื่อซื้อบ้าน) เงินส่วนนี้เจ้าของบ้านหลายรายชอบลืมกันไปว่าต้องมีด้วย จึงมิได้จัดแจงสำรองกันไว้ ทำให้ล่าช้า เสียโอกาสกันโดยไม่ใช่เหตุอันควร


ปรับแก้ เปรียญแพ่งฯ เรื่องค้ำประกันจำนอง 1 : คุ้มครองปกป้องผู้ค้ำประกันและก็ผู้จำนอง แต่เศรษฐกิจบางทีอาจพังครืนเมื่อ 21 เม.ย. 2558 โดย iLaw
37ไฟล์แนบ ขนาดไฟล์พระราชบัญญัติปรับแก้เพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (รับประกัน).PDF 74.95 KBช่วงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 พระราชบัญญัติปรับแก้เพิ่มประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่20) พ.ศ.2557 หรือ พ.ร.บ.แก้ไข อสังหาริมทรัพย์ รับจำนองขายฝาก บริการรับจำนอง เพิ่มประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ปรับปรุงเกี่ยวกับรับประกันแล้วก็จำนำ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ข้างหลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีความเห็นถูกใจเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2557 กฎหมายฉบับนี้พรีเซนเทชั่นโดยคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งริเริ่มปรึกษาขอคำแนะนำรวมทั้งยกร่างตั้งแต่มกราคม 2554 – เดือนกันยายน 2555 โดยสำนักปรับปรุงข้อบังคับ ที่ประกอบด้วยตัวแทนพระราชกฤษฏีกาและผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก อาทิเช่น ตัวแทนจากสถาบันการศึกษา, ตุลาการ, ภาคเอกชน รวมถึง ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล ร่างกฎหมายฉบับนี้เคยถูกเสนอไปสู่การพินิจสุดแท้แต่ตกไปเหตุเพราะการยุบสภาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เคยชินความประพฤติ แม้กระนั้นหลังการยึดอำนาจ ภาควิชารักษาความสงบเงียบแห่งชาติ (คสช.) ได้นำร่างกฎหมายฉบับนี้มาพิเคราะห์ใหม่อีกครั้ง สาระสำคัญ : คุ้มครองป้องกันสิทธิผู้ค้ำประกัน แต่เศรษฐกิจอาจพังครืนรายละเอียดสำคัญของร่าง พระราชบัญญัติปรับแต่งเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในเรื่องการค้ำประกันและจำนำหมายถึงการคุ้มครองป้องกันสิทธิและให้ความยุติธรรมแก่ผู้ค้ำประกันรวมทั้งผู้จำนองที่จะต้องใช้หนี้ใช้สินแทนลูกหนี้ โดยธรรมดาในทางปฏิบัติ เจ้าหนี้ส่วนมากซึ่งเป็นแบงค์ สถาบันการเงิน หรือผู้ประกอบอาชีพให้กู้เงิน มักกำหนดกติกาให้ผู้ค้ำประกันหรือผู้จำนองจะต้องรับสารภาพเหมือนเป็นลูกหนี้ เมื่อลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้ตามที่มีการกำหนดเจ้าหนี้เยอะแยะเลือกที่จะฟ้องผู้ค้ำประกันหรือผู้จำนองแทนการฟ้องลูกหนี้โดยตรง นำมาซึ่งการทำให้ผู้ค้ำประกันหรือผู้จำนองจำเป็นต้องลำบากหรือล้มละลายจากหนี้สินที่ตัวเองมิได้ก่อขึ้น อย่างไรก็ตามช่วงปลายปี 2557 ก่อนที่่ข้อบังคับฉบับนี้จะใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ก็มีเสียงปฏิเสธจากกรุ๊ปธุรกิจแบงค์ โดยข้อกังวลหลักเป็นกฎหมายฉบับนี้จะก่อให้สถาบันการเงินพิเคราะห์สินเชื่อเอาจริงเอาจังมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ธนาคารในฐานะเจ้าหนี้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบกิจการขนาดกึ่งกลางรวมทั้งขนาดเล็ก (SMEs) แล้วก็อาจส่งผลรุนแรงต่อภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย จนถึงขั้นทำให้ระบบเศรษฐกิจปั่นป่วนหรือพังครืนได้

Leave a comment

Design a site like this with WordPress.com
Get started